3 ปีซ่อม! ทำไม แมนฯ ยูไนเต็ด ยุค โซลชา ยังไม่ควรตั้งเป้าถึงแชมป์
ก็เป็นอันว่าไม่มีการพลิกโผอะไร หลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศแต่งตั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นผู้จัดการทีมแบบถาวรคนใหม่ของพวกเขาแล้ว หลังจากที่เจ้าตัวทำผลงานได้โดดเด่นในฐานะกุนซือชั่วคราว
ทั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มอบสัญญาที่มีระยะเวลา 3 ปีให้กับ โซลชา นั่นหมายความว่ากุนซือชาวนอร์เวย์ก็จะได้คุมทีมไปถึงปี 2022 ซึ่งหลังจากที่ โซลชา ได้เป็นกุนซือแบบถาวรแล้วนั้น "เร้ด อาร์มี่" บางส่วนก็วาดฝันว่าเขาจะพาทีมกลับไปครองความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ถ้าพูดกันตามจริงแล้ว แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ควรจะตั้งความคาดหวังถึงแชมป์เร็วเกินไปนัก
ใน 3 ปีนี้ที่จะได้อยู่ในตำแหน่งนั้น สิ่งสำคัญที่สุดที่ โซลชา ควรจะทำให้ได้คือการวางรากฐานของทีมให้มั่นคง ตั้งแต่ยุคของ เดวิด มอยส์ มาจนถึง หลุยส์ ฟาน กัล และตามด้วย โชเซ่ มูรินโญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีรูปแบบการเล่นที่สะเปะสะปะหาความแน่นอนไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ซึ่งสิ่งนั้นส่งผลให้ตัวนักเตะสับสนจนเล่นกันไม่ออกตามไปด้วย
ตลอด 19 นัดที่ผ่านมา โซลชา อาจจะทำให้ทีมเล่นดีขึ้นได้ แต่เขาก็ยังไม่ได้วางรากฐานที่แน่นอนในระยะยาวให้กับทีม ดังนั้นหนึ่งในภารกิจสำคัญของเขาในช่วงเวลาต่อจากนี้คือการหาสไตล์ที่เหมาะสมกับทีมให้เจอ และกำหนดให้ทีมเล่นแบบนั้นเป็นหลักให้ได้ เหมือนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยทำได้จนช่วยให้ทีมครองความยิ่งใหญ่ได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ โซลชา ก็ยังมีภารกิจที่ต้องรักษาดีเอ็นเอการผลักดันแข้งดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ของทีมด้วย เพราะการให้โอกาสแข้งเยาวชนเป็นเหมือนขนบธรรมเนียมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้ว หลังจากในอดีตพวกเขาเคยดันเด็กจากอะคาเดมี่ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่หลายราย ก่อนที่แข้งเหล่านั้นจะพาทีมประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะกลุ่ม "คลาส ออฟ 92" ที่โด่งดังจนหลายคนรู้จักเป็นอย่างดี แทงบอลUFABET
ตอนนี้อะคาเดมี่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังมีเพชรเม็ดงามที่รอวันนำมาโชว์ในเวทีใหญ่อยู่ อย่างเช่น ทาฮิธ ชอง, เจมส์ การ์เนอร์, อังเคล โกเมส ฯลฯ อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปได้ยากมากที่นักเตะเหล่านั้นจะพัฒนาไปเป็น "ยอดแข้ง" ได้ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี แค่ให้พวกเขาปรับตัวเข้ากับทีมชุดใหญ่ได้ และเป็นกำลังหลักของทีมได้ก็ถือว่าน่าประทับใจแล้ว
แน่นอนว่าทั้งสองปัจจัยนี้มันต้องใช้เวลานานพอตัวกว่าที่จะประสบความสำเร็จด้วยดี ซึ่งนั่นก็ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ผลงานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในระหว่างนั้นอาจจะยังไม่ดีพอสำหรับการเป็นแชมป์ในแต่ละรายการ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลอะไรเลย เพราะที่จริงแล้วกุนซือเกือบทุกคนก็ต้องใช้เวลานานในการสร้างทีมที่ต้องการกันทั้งนั้น
ไม่ต้องมองไกล เอาแค่ เฟอร์กูสัน ที่เป็นตำนานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ เพราะหลังจากที่เขาเข้ามาคุม แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 1986 เขาก็ต้องใช้เวลาปรับแต่งทีมตั้งนาน ไม่ว่าจะทั้งกำหนดแนวทางของทีม, ปรับเรื่องระเบียบวินัย, สร้างกฎต่างๆ ฯลฯ และกว่าที่จะพาทีมได้แชมป์เป็นรายการแรกก็ต้องรอถึงศึก เอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาล 1989-90 โดยก่อนหน้านั้นเขาเกือบจะโดนเด้งด้วย เว็บพนันบอลดีที่สุด2019
ดังนั้น 3 ปีต่อจากนี้จึงไม่ใช่ 3 ปีที่แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องคาดหวังถึงถ้วยแชมป์ แต่เป็น 3 ปีที่ควรคาดหวังถึงการซ่อมแซมทีม เพื่อที่จะมีลุ้นแชมป์ลีกหลังจากนั้นมากกว่า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น